การมีผิวที่แห้งคันและตกสะเก็ดสามารถสร้างความรำคาญและทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ง่าย หลายคนจึงหันมาใช้โลชั่นทั่วไปแบบที่วางขายกันตามท้องตลาดเพราะหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่อาจเกิดคำถามที่ดูขัดแย้งว่า ทำไมโลชั่นที่เราคิดว่าช่วยให้ความชุ่มชื้น อาจไม่ได้ผลตามใจปรารถนา
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ โลชั่นทุกชนิดเหมือนกันหมด ในความจริง ความแตกต่างของส่วนผสมในโลชั่นนั้นสำคัญมาก โลชั่นบางชนิดอาจมีแอลกอฮอล์หรือส่วนผสมที่ทำให้แห้งมากขึ้น การเลือกโลชั่นที่มีสารให้ความชุ่มชื้นจริงๆ เช่น กรดไฮยาลูโรนิค เซราไมด์ หรือกลีเซอรีน จะช่วยให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น
อีกคำถามที่มักไม่ค่อยได้ยินคือ ทำไมโลชั่นที่มีกลิ่นหอมอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับผิวแห้งคัน โลชั่นที่มีกลิ่นหอมมากมักมีสารเสริมกลิ่นที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง หรือแห้งมากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง การเลือกโลชั่นที่ไม่มีน้ำหอมและผ่านการทดสอบการแพ้มักจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
การจัดการข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการใช้โลชั่นทั่วไปรวมถึงการรับรู้ว่าขั้นตอนการดูแลผิวไม่ได้หยุดที่การใช้โลชั่นเท่านั้น หลายคนอาจรู้สึกแปลกใจว่า “ทำไมการทาโลชั่นตามเวลาอาจไม่ทำงานอย่างที่คิด?” การใช้โลชั่นทันทีหลังอาบน้ำขณะผิวยังชื้นอยู่สามารถช่วยล็อกความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น การละเลยช่วงเวลานี้อาจทำให้ผิวสูญเสียโอกาสในการเก็บความชุ่มชื้น
นอกจากโลชั่นแล้ว การดูแลสุขภาพผิวจากภายในด้วยการดื่มน้ำเพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันดี เช่น โอเมก้า-3 และวิตามินอี ก็ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ ตัวเลือกที่ผสมผสานทั้งภายในและภายนอกมักจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าเพียงการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
โลชั่นทั่วไปอาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่คุณคาดหวังเสมอไป การเลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นจริง ๆ และผสมผสานกับการดูแลผิวอย่างครอบคลุม คือกุญแจที่จะทำให้ผิวสามารถฟื้นฟูความแข็งแรงและคืนความชุ่มชื้นได้ในระยะยาว by งานวิจัย ปาล์มแดง peroa
